
วิตามินบี 6 มากไป เส้นประสาทอักเสบ
หมอทั่วไปโดยเฉพาะหมอทางสมองและระบบประสาท เริ่มสงสัย สังเกตและจับตามองภาวะผิดปกติของเส้นประสาทที่อธิบายไม่ได้ ทั้งนี้จากการที่ไม่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ไม่ได้ผอมแห้งแรงน้อย ขาดอาหาร หรือมีโรคตับ
แต่กลับมีอาการทางเส้นประสาท ในลักษณะของชา แสบร้อน ตามปลายเท้าปลายมือ จนกระทั่งมีอาการปวดกระดูกจนถึงกล้ามเนื้ออ่อนแรง และในบางรายมีกระตุกของกล้ามเนื้อ การทรงตัวผิดปกติ เดินเซ และจนกระทั่งมีรายงานปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวันและกลางคืนและในที่สุดปัสสาวะไม่ออก (ขนาดที่ใช้อยู่ที่ 10 มิลลิกรัมต่อวันเป็นเวลาสามปี) และเมื่อหยุดใช้อาการดีขึ้นตามลำดับ โดยไม่มีสาเหตุอย่างอื่น
และมีรายงานทางวารสารทางระบบประสาท และศูนย์พิษวิทยา มากขึ้นเรื่อยๆ
นั่นคือผลกระทบหรือผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการเสริมวิตามินบีรวม โดยที่มีปริมาณของ บี 6 ในขนาดสูง โดยที่หมอที่สั่งจ่ายหรือคนที่กินอาจจะไม่รู้ตัว เนื่องจากเป็นส่วนผสมที่อยู่ในวิตามินเกลือแร่ที่ขายกันทั่วไปและมีการกินหลายยี่ห้อผสมกัน ทั้งนี้ โดยที่ไม่ได้มีคำเตือนถึงผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากในระยะแรก ข้อมูลยังไม่ชัดเจนว่าควรจะเป็นในขนาดเท่าใด โดยที่ถือว่าเป็นวิตามินที่ละลายน้ำและสามารถขับถ่ายออกได้
ขนาดของวิตามินรวมที่มี บี 6 โดยต้องใช้ในปริมาณที่สูงขึ้นถึงวันละ 10 ถึง 25 มิลลิกรัม เป็นการรักษา (therapeutic dose) ในกรณีที่จำเป็น เช่น เมื่อต้องกินยารักษาวัณโรค isoniazid รวมทั้งเมื่อเกิดผลข้างเคียงจากกินยา isoniazid นี้ จนกระทั่งเกิดมีชักขึ้น และในคนท้องที่มีอาการอาเจียนอย่างรุนแรง (hyperemesis gravidarum) และในผู้ป่วยที่มีภาวะผิดปกติทางโภชนาการทำให้มีระดับวิตามินทั้งหลายลดลงและเกิดอาการทางระบบประสาทได้เช่นกัน
นอกจากยา isoniazid ยังมียาอื่นๆ เช่น cycloserine penicillamine ยาในโรคพาร์กินสัน levodopa ที่ทำให้ระดับของวิตามินบี 6 ต่ำลง และบี 6 ยังใช้ในการรักษาภาวะที่ขาดแมกนีเซียม
สำหรับเหตุผลอื่นๆที่ต้องมีการเสริม วิตามินบี 6 เนื่องจากในคนสูงอายุ โดยเฉพาะที่มีโรคประจำตัว มักได้รับสารอาหารที่มีบี 6 ไม่พอ โดยที่บี 6 จะอยู่ในเนื้อสัตว์ ตับ ปลา ถั่ว และถั่วเลนทิล และอาหารที่ผ่านกระบวนการต่างๆ มีการเก็บนานและหุงต้ม จะทำให้ปริมาณบี 6 ลดลงไป 10 ถึง 50%
อาการของการขาดจะเหมือนกับที่ได้วิตามินบี 6 มากเกินไป จนอาจทำให้สับสนว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ซึ่งอาจจะต้องมีการเจาะระดับของวิตามินในเลือดร่วมด้วย พร้อมกับพิจารณาสาเหตุอย่างอื่นประกอบ เช่น อาการทางระบบประสาท โดยเฉพาะที่มีอาการชาเจ็บแสบนั้นเกิดจากเบาหวาน ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย ติดเชื้อเอชไอวี ติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด จนกระทั่งถึงซิฟิลิส โรคภูมิคุ้มกันแปรปรวน โรคที่มีการสร้างโปรตีนจากไขกระดูกผิดปกติ (monoclonal gammo pathy) มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และพิษของยา รวมยาเคมีบำบัดที่ใช้รักษามะเร็ง พิษโลหะหนัก สารเคมีฆ่าแมลง organophosphorus
ขนาดตามปกติของวิตามินบี 6 ที่ร่างกายต้องการต่อวันอยู่ที่ 0.5 ถึง 1 มิลลิกรัม ในเด็ก ในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ อยู่ที่ขนาด 1.3 มิลลิกรัม ในผู้ชายอายุมากกว่า 50 ปี ขนาด 1.7 มิลลิกรัม แต่ในผู้หญิงที่อายุเกิน 50 ปีนั้น อยู่ที่ขนาด 0.5 มิลลิกรัม
อ่านข่าวเพิ่มเติม : 4 สาเหตุที่ทำให้เกิด “ผมขาว” ก่อนวัยอันควร